อัพเดทสถิติโลกดิจิตอลเมืองไทย + เทรน Mobile & Social

Posted: March 24, 2012 in Technology Update

ตอนนี้เทรนที่เห็นได้ชัดเลยคือการใช้อินเตอร์เน็ตผ่านมือถือ โดยที่ตัวเลขล่าสุดของผู้ใช้อินเตอร์เน็ตบนมือถือในเมืองไทยตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 18 ล้านคน (เพิ่มจากปีที่แล้วที่ 12 ล้านคน) และมีท่าทีว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นเพราะราคาของโทรศัพท์สมาร์ทโฟนที่ต่ำลง ทำให้การเข้าถึงตัวฮาร์ดแวร์ขยายกว้างมากขึ้น หรือจะเป็นราคาค่าบริการอินเตอร์เน็ตบนมือถือที่มีให้เลือกสำหรับหลากหลายความต้องการมากขึ้น

นอกจากนี้ อีกปัจจัยนึงที่ส่งผลให้เทรนการใช้อินเตอร์เน็ตบนมือถือโตขึ้นก็รวมไปถึงเทรนการใช้สังคมออนไลน์ และการใช้บริการ location ผ่านบนสังคมออนไลน์ต่างๆ แบบ real-time ผ่านแอพฯ บนมือถืออีกด้วย ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าตลาด mobile data ในเมืองไทยจะโตขึ้นถึง 34% ภายในปี 2013

ในแง่ของธุรกิจแล้ว เทรนการใช้งานมือถือที่เพิ่มขึ้นก็เปิดโอกาสใหม่ๆ ในการทำการตลาด และอาจจะขยายผลไปสู่การขายได้ โดยใช้มือถือเป็นช่องทางในการสื่อสารแบบ real-time กับผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นในการลิงค์ offline และ online platform หรือการ drive traffic ไปที่หน้าร้าน ด้วยการ offer ส่วนลด หรือสิทธิพิเศษต่างๆ ผ่านทางบริการ location-based บนมือถือ และอื่นๆ

ปัจจัยที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ drive การเติบโตของการใช้งานอินเตอร์เน็ตผ่านมือถือ คือ สังคมออนไลน์ ซึ่งเดี๋ยวนี้กลายเป็นสิ่งที่แบรนด์ไม่สามารถมองข้ามได้ไปแล้ว จากการ survey ในสหรัฐฯ จะเห็นว่า contact หรือเพื่อนบนสังคมออนไลน์มีผลมากขึ้นถึง 47.5% ในการ influence ผู้บริโภคให้เชื่อในสินค้า หรือบริการอะไรสักอย่าง เราจะเห็นเทรนที่แบรนด์หันมาใช้ network ของผู้บริโภคด้วยกันเองในการ drive เทรนในการเลือกใช้สินค้า หรือบริการกันมากขึ้น

 

นอกจากเราจะเห็นการใช้ online influencers หรือ bloggers เราจะเห็นเทรนในเรื่องของ collaboration หรือ co-creation ในการทำการตลาดบนโลกดิจิตอลกันมากขึ้นด้วย โดยที่แบรนด์ถอยมาทำหน้าที่เป็น enabler ให้ผู้บริโภคมาแชร์ประสบการณ์ หรือความคิดเห็นผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ แทนที่แบรนด์จะทำหน้าที่ป่าวประกาศ message ต่างๆ อยู่ฝ่ายเดียว ในแง่นี้ content ที่ถูก co-create ขึ้นมาระหว่างแบรนด์ และสังคมของผู้บริโภคก็ทำหน้าที่เป็น ‘สื่อ’ ในการสร้าง และส่งต่อประสบการณ์ร่วม (shared experience)  ในตัวเอง

และด้วยความที่เทรน mobile และ social ค่อนข้างโตไปในทิศทางเดียวกัน เราก็จะเริ่มเห็น linkage ระหว่างสื่อ offline และ online ผ่านการทำการตลาดแบบ real-time บนสังคมออนไลน์ ที่ผ่านมาเราจะเห็นว่าสื่อ offline ช่วยในการทำให้สื่อออนไลน์ขยายไปในกลุ่มคนที่กว้างขึ้น ตอนนี้จะเริ่มเห็นความสัมพันธ์ระหว่างกันมากขึ้น ทำให้เกิดการกระจายของ content ไปในวงที่กว้างขึ้น ซ้อนกันมากขึ้น และ real-time มากขึ้น โดยเฉพาะด้วยสื่อ micro-blogging อย่าง Twitter

ส่วนอีกเทรนที่เริ่มเห็นกันบางแล้วในต่างประเทศ คือ social commerce ที่ใช้สังคมออนไลน์ในการปิดการขายได้เลยในตัว ตอนนี้ในบ้านเราก็จะเห็นร้านค้าบน Facebook ที่ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นของ social commerce แต่ยังผ่านวิธีชำระแบบตั้งเดิมอยู่ ในอนาคตเราน่าจะได้เห็นระบบที่จบในตัวมากกว่านี้ ทั้งสร้าง social shopping experience, ทั้งเป็นช่องทางในการ offer สิทธิพิเศษ หรือส่วนลดต่างๆ แถมยังสามารถวัดได้ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ (ตั้งแต่คลิกแบนเนอร์ มาจนคลิกสั่งซื้อบน social network)

ปล. ข้อมูล และสถิติถูกรวบรวมมาจากหลายที่มาก จะพยายามลิสออกมาให้ได้มากที่สุดอีกทีนะคะ ตกหล่น หรือผิดพลาดตรงไหน ก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย ส่วนใครมีข้อมูลเพิ่มเติม หรือข้อมูลที่อัพเดทกว่านี้ ก็รบกวนแชร์กันมานะคะ :)

 

Leave a comment